สูตรทำน้ำพริกรสเด็ด




1.น้ำพริกปลาร้าสับ

น้ำพริกปลาร้าสับ อาหารไทย เมนูน้ำพริก อาหารพื้นบ้าน


ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกปลาร้าสับ
  • ปลาร้า 2 ตัว
  • พริกขี้หนู 5 เม็ด
  • หอมแดง 3 หัว
  • กระเทียม 3 หัว
  • ใบมะกรูด ซอย 1 ช้อนโต้ะ
  • ขิง ซอย 1 ช้อนโต้ะ
  • กระชาย ซอย 1 ช้อนโต้ะ
  • ตะไคร้ ซอย 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำน้ำพริกปลาร้าสับ
  1. ลวก ปราร้า ให้พอสุก พักไว้ก่อน
  2. โขลก พริกขี้หนู หอมแดง กระเทียม ขิง กระชาย และ ตะไคร้ ให้ละเอียดเข้ากัน
  3. ปลาร้า และ น้ำมะขามเปียก ลงไป โขลก ด้วยให้เข้ากัน
  4. เสริฟใส่ ถ้วยน้ำพริก โรยหน้าด้วย ใบมะกรูด กับข้าว ง่ายๆ เมนูน้ำพริก
เคล็ดลับ การทำน้ำพริกปลาร้าสับ
  • ปลาร้า ให้เลือกใช้ ปลาร้าอย่างดี โดย ส่วนมาก นิยมใช้ ปลาร้าจากปลากระดี่ แต่ ปลากระดี่ร้า มีในภาคกลางเป็นส่วนมาก แต่ใช้ ปลาร้า ของอะไรก็ได้ ต้องทำให้สะอาด เนื่องจาก ปลาร้า เป็น การถนอมอาหารอย่างหนึ่ง เป็น การหมัก ปลา กับ เกลือ และ ข้าวคั่ว ซึ่งก็เป็น ลักษณะของของหมักดอง ต้องรับประทานอย่างถูกสุขลักษณะ
  • พริก ให้เลือกใช้ พริกขี้หนูสวน เมนูน้ำพริกปลาร้าสับ ไม่ได้ต้องการความสวยงามในสีสันของพริก ต้องการ รสเผ็ด ล้วนๆ ใช้ พริกขีเหนูสวน ไปเลย
  • กระเทียม สำหรับทำน้ำพริกปลาร้าสับ นิยมใช้ กระเทียมไทย เนื่องจาก มีกลิ่นหอม เนื้อน้อย กระเทียมจีน มีเนื้อและน้ำมาก ไม่มีกลิ่นหอมมากเท่าไร
  • ขิง ใช้ ขิงอ่อนๆ เนื่องจาก ขิงแก่ จะมีกลิ่นแรงเกินไป และ เนื้อขิงแก่ จะแข็ง ในขณะที่ปลาร้า มีความเหนียว บางที่ อาจทำให้ได้สัมผัสของ ขิง มากเกินไป ทำให้เสียรสชาติ
  • สำหรับการเก็บรักษา น้ำพริกปลาร้า สามารถเก็บรักษาได้นาน สามารถทำแล้วรับประทานได้หลาย วัน ไม่เน่า บูดง่าย

2.กะปิหลน
กะปิหลน หลนกะปิ น้ำพริก


ส่วนผสมสำหรับทำกะปิหลน
  • ปลาดุกย่างแกะเอาแต่เนื้อ 1 ตัว
  • หัวกะทิ 1 ถ้วย
  • หางกะทิ 2 ถ้วย
  • พริกแห้ง แข่น้ำให้พริกนุ่ม ประมาณ 3-5 เม็ด
  • ตะไคร้ หั่นให้เป็นฝอย 3 ช้อนโต้ะ
  • หอมแดง 5 หัว
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
  • พริกสด 5 เม็ด
  • กะปิ 3 ช้อนโต้ะ
  • หมูสับ 3 ช้อนโต้ะ
  • ใบมะกรูด ซอยหยาบๆ 1 ช้อนโต้ะ
วิธีทำกะปิหลน
  1. นำหอมแดง กระเทียม กะปิและตะไคร้ ไปเผาให้พอสุก จากนั้นนำมาโขรกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันกับพริกแห้ง และเนื้อปลาดุกย่าง
  2. ตั้งกะทะให้ร้อนนำหัวกะทิลงไป รอให้หัวกะทิแตกมัน จากนั้นนำส่วนผสมที่โขรกไว้ลงไปผัดในกะทะ
  3. ใส่หมูสับลงไป เคี่ยวให้ง้วน ปรุงรสด้วย น้ำตาลและน้ำปลา
  4. ใส่พริกสดและใบมะกรูดลงไป เคี่ยวต่อสักพักหนึ่ง
  5. เสริฟน้ำพริกกะปิหลน ทานกับผักสดและข้าวสวยร้อนๆ
เคล็ดลับการทำกะปิหลน
  • การเลือกกะปิที่ดี ต้องดูที่สีของกะปิ สีแบบธรรมชาติ ต้องสีม่วงเทา สีชมพู สีม่วงแดง ลักษณะเนื้อของกะปิจ้องละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เหนียวและไม่แฉะ ที่สำคัญต้องไม่มีสิ่งแปลกปลอมเจือปน
  • หมูสับใช้หมูสดๆ ใหม่ เนื้อส่วนสันใน จะเป็นส่วนที่นุ่ม เหมาะสำหรับทำกะปิหลน


3. น้ำพริกกุ้งสด

น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริก อาหารไทย เมนูอาหาร


ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกกุ้งสด
  • เนื้อกุ้ง นำมาสับ 6-8 ตัว
  • กุ้งสด 5-6 ตัว (แกะเปลือกเอาหัวเอาหางออก)
  • กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
  • กระเทียม 5-6 กลีบ
  • พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
  • มะเขือพวง 10 เม็ด
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • ผัดสด สำหรับเป็นเครื่องเคียงน้ำพริก เช่น ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักกาดขาว มะเขือ และ ผักอื่นๆตามใจชอบ
วิธีทำน้ำพริกกุ้งสด
  1. เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบก่อน นำ กะปิไปห่อใบตอง และนำไปย่างให้สุกมีกลิ่นหอม พร้อมทั้งนำ กระเทียม และ พริกขี้หนูสวนไปคั่วในกระทะให้หอม
  2. นำเนื้อกุ้งไปลวกในน้ำเดือดให้สุก เมื่อเราได้วัตถุดิบพร้อมแล้ว ก็ลงมือทำได้
  3. โดยเตรียมครก ใส่กะปิ กระเทียม พริกขี้หนูสวน ลงไปโขรกให้ละเอียดเข้ากัน
  4. จากนั้นให้นำ มะเขือพวง ลงไปโขรก แต่โขรกให้พอบุบ อย่าให้เละละเอียด
  5. ใส่ เนื้อกุ้งลวกลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันกับส่วนผสมก่อนหน้านี้
  6. ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และ น้ำปลา ชิมรสชาติตามใจชอบ เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วย พร้อมด้วยผักสดๆ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกกุ้งสด
  • เนื้อกุ้ง ให้ใช้ เนื้อกุ้งสดๆ ขนาดใดก็ได้ แต่หากตัวปานกลาง เท่านิ้วโป้ กำลังพอดี ไม่ใหญ่ หรือเล็กไป
  • การนำเอากระเทียมไปคั่วในกระทะก่อน เพื่อให้กระเทียมหอม และ เมื่อกระเทียมโดนความร้อนจะให้รสหวานอร่อย
  • การนำเอาพริกขี้หนูสวนไปคั่วในกระทะก่อน ทำให้พริกหอม และ พริกสดหากโดนความร้อนจะลดกลิ่นเหม็นเขียวลงได้
  • กะปิ ที่นำมาทำให้นำมา ห่อใบตอง และนำไปย่าง ให้ใบตองไหม้ มีสีดำ กลิ่นของใบตอง และความร้อนของไปทำให้กะปิมีความหอม มากขึ้น และเป็นการฆ่าเชื้อโรคบางอย่างด้วย
  • มะเขือพวง ให้โขรกหยาบๆ ไม่ต้องให้ละเอียด ให้มีชิ้นเนื้อมะเขือ จะทำให้ได้รสชาติเป็นเนื้อไปอีกแบบ
  • น้ำตาล ให้ใช้ น้ำตาลปี๊บ เนื่องจาก น้ำตาลปี๊บ ความหวานไม่แหลมมาก และมีความหอมมากกว่าน้ำตาลทราย
  • ผักสดๆ หากต้องการเพิ่มความอร่อย ให้นำไปแช่เย็นก่อน ทานผักเย็นๆกับน้ำพริกจะให้รสชาติที่อร่อยมากขึ้น